แมนยู ล็อกเป้า 4 สตาร์ชั้นดีซึ่งเหลือสัญญากับต้นสังกัด 12 เดือน
สำหรับตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเริ่มเข้าที่เข้าทางสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือเอริค เทน ฮาก แต่ในช่วงซัมเมอร์นี้ดูเหมือนทีมยังต้องการเพิ่มเติมบางจุดเพื่อให้ “ปีศาจแดง” เป็นทีมที่สมบูรณ์แบบพร้อมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สำหรับฤดูกาลใหม่
เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ประธาน INEOS เข้าถือครองหุ้นคลาสบีของสโมสรแมนยู 25 เปอร์เซนต์ บวกกับหุ้นคลาสเออีก 25 เปอร์เซนต์ โดยเขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะนำทีมรักแมนยู กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
“อีเอสพีเอ็น” สื่อดังระดับโลก รายงานว่า “เร้ด เดวิลส์” มีการวางนโยบายในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้เอาไว้แล้ว ด้วยการจับตานักเตะที่เข้าสู่ช่วง 12 เดือนสุดท้ายของข้อตกลงที่มีกับต้นสังกัดของพวกเขา เนื่องจากสถานะการเงินของทีมที่ค่อนข้างตึง
แน่นอนว่า แมนยู จะใช้เงินอย่างชาญฉลาดในการเสริมทัพ แต่เหมาะสมที่จะช่วยยกระดับขุมกำลังของ เทน ฮาก ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และกลับมามีลุ้นแชมป์เต็มตัว โดยตอนนี้มี 4 สตาร์ชั้นยอดที่สัญญาปัจจุบันเข้าสู่ช่วง 12 เดือนสุดท้าย ซึ่งศักยภาพของพวกเขามีครบทุกอย่างที่จะทำให้ “ผีแดง” แข็งแกร่ง
ปัญหาหลักสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือถ้า คิมมิช ตัดสินใจที่จะโบกมือลาทีมของกุนซือโธมัส ทูเคิ่ล จริงๆ งานนี้คงมีหลายสโมสรชั้นนำที่พร้อมยื่นข้อเสนอเพื่อให้เขาพิจารณายาวเป็นหางว่าวแน่นอน
หนึ่งในนั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีความชื่นชอบ คิมมิช อยู่แล้ว เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันตอนอยู่กับ บาเยิร์น นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็พร้อมที่จะแย่งลายเซ็นของเขาเช่นกัน
ถ้าหาก “ผีแดง” ได้ตัว คิมมิช มาร่วมทีม สิ่งแรกที่นักเตะจะนำเข้ามาสู่สโมสรก็คือดีเอ็นเอแห่งแชมเปี้ยน และความเป็นผู้นำในสนาม ซึ่งสามารถทำหน้าที่แทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้สบายๆ แถมยังสามารถกระตุ้นทีมเวลาที่อยู่ในห้องแต่งตัวได้ด้วย
ดาวเตะวัย 28 ปีซึ่งย้ายจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาอยู่กับ บาเยิร์น เมื่อปี 2015 ประสบความสำเร็จมากมายกับ “เสือใต้” รวมทั้งคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2020 เป็นต้น
แมนฯ ยูฯ เคยโดนทีเด็ดในเรื่องความเร็วของ อัลฟอนโซ่ เดวิส มาแล้วในช่วงต้นฤดูกาลนี้ เมื่อเขาวิ่งฉีกแนวรับของ “ผีแดง” ฉีกกระจุยราวกับทิชชู่ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ “เสือใต้” ชนะ 4-3 ในสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า
ปัจจุบันไม่มีใครกว้าปฏิเสธว่า เดวิส คือหนึ่งในนักเตะระดับโลกในตำแหน่งของเขา และถ้าหากนักเตะตัดสินใจโบกมือลายอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรีย งานนี้คงมีสายโทรศัพท์ติดต่อเอเจนต์ของเขาไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน
แม้ ลุค ชอว์ จะทำผลงานได้ดีกับ แมนฯ ยูฯ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และไม่ต้องสงสัยเลยว่านักเตะมีผลงานพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะตอนที่ได้เล่นร่วมกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ปราการหลังพันธุ์ดุชาวอาร์เจนไตน์
กระนั้น เดวิส ก็เหมือนกับ คิมมิช เพราะเขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในตำแหน่งของเขา และมันคงเป็นเรื่องที่โง่มากๆ หากทิ้งโอกาสที่จะดึง สตาร์ทีมชาติแคนาดา มาร่วมทัพ
เดวิส อายุเพียง 23 ปีน้อยกว่า ชอว์ 5 ปี และยังสามารถยกระดับผลงานของตัวเองได้อีกหลายปี แต่ปัญหาก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถานะที่ยิ่งใหญ่จนทำให้นักเตะตัดสินใจอำลา บาเยิร์น เพื่อมาเล่นกับพวกเขาหรือเปล่า
ปัจจุบัน เดวิส ซึ่งคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยและโทรพี่ “บิ๊กเอียร์” 1 สมัย คงเป็นตัวหลักของ บาเยิร์น ดังนั้นต้นสังกัดคงต้องการที่จะขยายสัญญากับนักเตะแต่ถ้าหากไม่สำเร็จนั่นหมายความว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์เขาจะเหลือสัญญาเพียง 12 เดือน และงานนี้ แมนฯ ยูฯ อาจจะมีลุ้นที่จะได้ตัว
อย่างไรก็ตาม “อีเอสพีเอ็น” รายงานว่า “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จัดการล็อกชื่อของ เดวิส เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ในการเสริมแกร่ง ดังนั้น “ผีแดง” คงต้องออกแรงเหนื่อยหน่อยเพื่อโน้มน้าวให้นักเตะมาร่วมทัพ
กองหน้าฟอร์มฮอตของ ลีลล์ สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดในช่วงที่ผ่านมา และนั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากจะได้ตัวเขามาร่วมทัพ เพราะศักยภาพเหมาะกับ “ผีแดง” มากๆ
แม้ว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ จะเริ่มปรับตัวกับการเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ เทน ฮาก ยังต้องการกองหน้าที่มีฝีเท้าฉมังเพื่อที่จะได้มาช่วยแบ่งเบาภาระให้กับดาวยิงทีมชาติเดนมาร์ก
ในช่วงซัมเมอร์นี้ขุมกำลังในแดนหน้าของทีมคงมีการเปลี่ยนแปลง เพราะ อองโตนี่ มาร์กซิยาล จะหมดสัญญาพอดี และสโมสคงไม่เก็บเขาเอาไว้ให้เป็นภาระด้านการเงิน ส่วน มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็หนักไปทางแนวรุกฝั่งซ้าย
ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง โจ ฮิวกิลล์ ยังไม่พร้อมกับการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ ดังนั้นในเวลานี้ เทน ฮาก มีตัวเลือกน้อยมากในแดนหน้าถ้าหากเกิดอาเพศ ฮอยลุนด์ บาดเจ็บ
สำหรับ เดวิด ย้ายมาเล่นกับ ลีลล์ เมื่อปี 2020 โดยแทนที่ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ที่ย้ายไปค้าแข้งกับ นาโปลี โดยนักเตะสามารถพัฒนาศักยภาพจนตอนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวหอกที่เก่งที่สุดในลีกฝรั่งเศสเคียงข้าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แล้ว
ผลงานตะบันไป 13 ประตูกับ 6 แอสซิสต์จากการเล่น 28 เกมให้ ลีลล์ ในฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชื่อของเขาตกเป็นที่หมายปองของสโมสรชั้นนำ และ แมนฯ ยูฯ ก็เคยแสดงความสนใจนักเตะชาวแคนาดามาแล้วในช่วงฟุตบอลโลก 2022
แน่นอนว่า ลีลล์ คงไม่อยากเสียนักเตะสำคัญไป แต่ด้วยการที่เขาเหลือสัญญาจนถึงปี 2025 นั่นทำให้ช่วงซัมเมอร์นี้พวกเขาอาจจำเป็นต้องขายนักเตะออกไป และ แมนฯ ยูฯ มีลุ้นที่จะได้ราคาไม่แพงด้วย
สตาร์ชาวฝรั่งเศส และนีซ วัย 22 ปี ถือว่ามีองค์ประกอบทุกอย่างที่เหมาะจะเข้ามาเติมเต็มในแดนกลางให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถือเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างทีมแห่งอนาคต
ก่อนหน้านี้ ตูราม มีข่าวพัวพันกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่ “หงส์แดง” จะคว้าตัว วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก มาร่วมทัพ
อย่างไรก็ตาม ตูราม ซึ่งถือรับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ครองบอลเหนียวแน่นที่สุดในวงการลูกหนังยุโรป โดยเหตุผลที่ทำให้นักเตะพัฒนาผลงานมาจากการที่เขาศึกษาฟอร์มของผู้เล่นอย่าง ยาย่า ตูเร่ และ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นประจำ
สำหรับแผนกองกลางของ แมนฯ ยูฯ ในเวลานี้นอกจาก ค็อบบี้ ไมนู กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แล้วที่เหลือก็ไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้มากนัก โดยเฉพาะ เมสัน เมาท์ ที่ซื้อมาแพงมากแต่ผลงานส่วนใหญ่อยู่ที่เตียงโรงพยาบาลมากกว่าสนามแข่ง
ทายาทของ ลิลิยอง ตูราม ตำนานแชมป์โลกทีมชาติฝรั่งเศส นอกจากจะอายุน้อยแล้วฝีเท้าก็ฉกาจฉกรรจ์ และสามารถเข้ามาทดแทน คริสเตียน เอริคเซ่น ที่น่าจะโดนปล่อยตัวหลังหมดสัญญาช่วงซัมเมอร์ปี 2025
แม้ว่า ตูราม ซึ่งเมื่อถึงซัมเมอร์นี้จะเหลือสัญญา 12 เดือน จะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานในฤดูกาลนี้ แต่นั่นก็ไม่สามารถลดทอนศักยภาพที่เขาแสดงให้เห็นกับต้นสังกัด ดังนั้นถ้า แมนฯ ยูฯ ได้ตัวมาร่วมทัพ คงทำให้ทีมมีแผงกองกลางที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ขอบคุณผู้สนับสนุน Betflixreal / Realgame.online
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล truevisions / beIN SPORTS Thailand / Siamsport / cheerball / Bundesliga / thairath